FOREX คืออะไร?
ตลาด Forex ก็เหมือนกับตลาดอื่นๆแต่แทนที่จะมีอาหารและสินค้าต่างๆกลับมีผู้คนมาเทรดสกุลเงินแทน
โบรกเกอร์ Forex คืออะไร?
ใครๆก็สามารถเทรดใน Forex ได้แต่ต้องเข้าถึงผ่านทางตัวกลางที่เรียกว่าโบรกเกอร์เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วโบรกเกอร์ก็เปรียบเสมือนกับ “มือ” ใน Forex ของคุณที่จะช่วยให้คุณเข้าสู่ตลาดได้
คู่สกุลเงินคืออะไร?
สกุลเงินในตลาดจะถูกเทรดกันเป็นคู่ – ตัวอย่างเช่น ยูโรและดอลลาร์สหรัฐ dollar. ต้องการซื้อเงินยูโรด้วยสกุลเงินดอลลาร์ใช่หรือไม่? เปิดการเทรด EUR/USD และกด “ซื้อ” ต้องการซื้อเงินดอลลาร์ด้วยสกุลเงินยูโรใช่หรือไม่? ทำแบบเดียวกันและเลือก “ขาย” มันง่ายมาก แค่จำไว้ว่าการกระทำของคุณมักจะเกี่ยวข้องกับสกุลเงินแรกของคู่สกุลเงินเสมอ
จะทำเงินจาก Forex ได้อย่างไร?
ผู้คนจะซื้อคู่สกุลเงินในราคาที่ต่ำกว่าและขายไปในราคาที่สูงกว่าและรายได้ของพวกเขาคือความต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย โบรกเกอร์จะได้ค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยจากการเทรดของคุณที่เรียกว่าสเปรด
ตัวอย่างเช่น:
สมมติว่าคุณมีเงิน $100 ในบัญชีการเทรดของคุณและต้องการเทรด EUR/USD อัตราแลกเปลี่ยนของมันจะอยู่ที่ 1.25 ซึ่งหมายความว่าทุกๆ 1 ยูโรคุณจะได้รับ 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ อัตราแลกเปลี่ยนก็เหมือนกับป้ายราคาในร้านขายของชำ – จะแตกต่างก็ตรงที่ป้ายราคาใน Forex มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
โดยคุณจะต้องทำการคาดการณ์ – ตัวอย่างเช่น คุณเชื่อว่าเงินยูโรจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
จากนั้นคุณก็ซื้อเงิน 80 ยูโรด้วยเงิน $100 ของคุณและรอให้อัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลง
ลองนึกดูว่ามันได้เพิ่มขึ้นจาก 1.25 เป็น 1.35 – มันจะเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คุณได้รับผลกำไร โดยคุณสามารถปิดการเทรดของคุณได้ในจุดนี้ ตอนนี้คุณสามารถเปลี่ยนเงิน 80 ยูโรของคุณให้กลายเป็นเงิน 108 ดอลลาร์ได้และได้รับกำไรของคุณ $8
หากคุณคิดว่าเงินจำนวนนี้ไม่คุ้มค่าพอ มีข่าวดี: โบรกเกอร์ของคุณสามารถช่วยให้คุณทำเงินได้มากขึ้นด้วยเครื่องมือสุดพิเศษที่เรียกว่า เลเวอเรจ เลเวอเรจคือเงินที่คุณยืมมาจากโบรกเกอร์ของคุณเพื่อเพิ่มเงินฝากของคุณเป็นทวีคูณ
ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้เลเวอเรจ 1:3000 ที่ FBS สำหรับการเทรดที่คล้ายกันจากตัวอย่างก่อนหน้า คุณจะได้รับ $2400 จากการเทรดเพียงแค่ครั้งเดียว กล่าวคือคุณลงทุนไป $100 คุณก็จะได้เทรด $300 000! ไม่เลวเลยใช่ไหม?
โปรดจำไว้ว่า: ยิ่งกำไรสูงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสี่ยงมากเท่านั้น ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นส่วนที่สำคัญของการเทรด!
จะคาดการณ์ได้อย่างไร?
คำถามสุดท้ายคือ: เทรดเดอร์จะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องเทรดคู่สกุลเงินใดและจะต้องซื้อหรือขายพวกมันเมื่อไหร่?
อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของมันซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ (GDP, อัตราเงินเฟ้อ, สถานการณ์ในตลาดแรงงาน, ฯลฯ) นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมปรากฏการณ์ทางการเมือง, ทางเศรษฐกิจและปรากฏการณ์ทางสังคมถึงได้มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของประเทศและยังมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินอีกด้วย เรียนรู้ว่าปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อความสามารถในการทำกำไรซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเทรด Forex ได้อย่างไร
มี 2 เครื่องมือหลักที่จะช่วยระบุช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อหรือขาย
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
มันเกี่ยวข้องกับข่าวเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ
ตัวอย่างเช่น:
คุณเห็นว่าอัตราการว่างงานของแคนาดาลดลงซึ่งหมายความว่า CAD จะแข็งค่าขึ้น ขาย USD/CAD และรอ!
สิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2018 – อัตราการว่างงานของแคนาดาลดลงและ USD อ่อนค่าลงจาก 1.250 เป็น 1.236 เมื่อเทียบกับ CAD การเทรด $100 ด้วยเลเวอเรจ 1:3000 เทรดเดอร์จะสามารถทำกำไรได้ $3398
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
คุณสามารถใช้แผนภูมิอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเพื่อทำการคาดการณ์ได้ – รูปแบบบนกราฟสามารถบอกคุณได้ว่าจะต้องทำอะไร มาดูรูปแบบที่เข้าใจง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุดอย่างรูปแบบ “Head and Shoulders” กันเถอะ
มันมีอยู่ด้วยกันสาม peaks ประกอบไปด้วยหนึ่ง “head” และสอง “shoulders”
เมื่อทั้งสาม peaks ถูกสร้างขึ้น ให้วาด neckline ผ่าน lows ที่ถูกสร้างขึ้นโดย peaks ทั้งสาม หลังจากนั้นให้วัดระยะทางจาก peak “head” ไปจนถึง neckline มันเป็นระยะทางโดยคร่าวๆที่คู่สกุลเงินจะเคลื่อนตัวลงจาก neckline รูปแบบ “Head and Shoulders” เป็นสัญญาณการขายที่แข็งแกร่ง
โชคดีที่คุณไม่จำเป็นต้องจบด้านการเงินเพื่อที่จะทำความเข้าใจมันอย่างถ่องแท้! โบรกเกอร์ FBS มีส่วนของเนื้อหาด้านการศึกษาและการวิเคราะห์สุดพิเศษที่จะมาอธิบายว่าจะต้องทำอย่างไรเมื่อราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลงด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย